กลับ

ควบคุมค่าใช้จ่ายจากการสมัครสมาชิก ให้การเงินเป็นอิสระมากขึ้น! แนวคิดหนึ่งที่ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็น

By Sean Chen, 27 ตุลาคม 2024

spending-tracker-2024

ในยุคที่บริการ SAAS ครองเมือง ชีวิตของเรามีบริการสมัครสมาชิกมากมาย ตั้งแต่สตรีมมิ่งวิดีโอ ฟิตเนส ไปจนถึงเครื่องมือสำนักงาน การหักเงินรายเดือนหรือรายปีเป็นเรื่องปกติสำหรับหลายคน อย่างไรก็ตาม การสมัครสมาชิกเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้อาจค่อยๆ ลดทอนคุณโดยไม่รู้ตัว การตรวจสอบรายการสมัครสมาชิกใหม่ช่วยให้เรานำเงินไปใช้ในสิ่งที่สำคัญจริงๆ และเพิ่มสุขภาพทางการเงิน

ทำไมการสมัครสมาชิกเดือนละครั้งถึงเป็นหลุมดำทางการเงินที่คุณมองไม่เห็น?

การสมัครสมาชิกที่ดูเหมือนไม่มีค่าเพียง 150 บาทต่อเดือน แต่ในหนึ่งปีจะกลายเป็น 1,800 บาท! การใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้สะสมไปเรื่อยๆ มักจะกลายเป็นภาระทางการเงินที่มองไม่เห็น ซึ่งเกินกว่าที่คุณคาดคิด ผลกระทบของ "เงินเล็กๆ รวมกันเป็นก้อนใหญ่" นี้มักถูกมองข้าม แต่มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่ออิสรภาพทางการเงินในระยะยาว

ค่าใช้จ่ายหมุนเวียนที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง?

การตรวจสอบรายการสมัครสมาชิกใหม่เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจรายการสมัครสมาชิกที่พบบ่อย ต่อไปนี้คือประเภทของค่าใช้จ่ายหมุนเวียนที่พบบ่อย คุณอาจพบว่ามีบางอย่างที่สามารถปรับหรือยกเลิกได้:

  1. บันเทิงและสื่อ
    • สตรีมมิ่งเพลง (เช่น Spotify, Apple Music)
    • แพลตฟอร์มวิดีโอ (เช่น Netflix, Disney+, YouTube Premium)
    • บริการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือหนังสือเสียง (เช่น Audible, Kindle Unlimited)
  1. เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพและซอฟต์แวร์สำนักงาน
    • พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ (เช่น Google Drive, Dropbox)
    • ชุดโปรแกรมสำนักงาน (เช่น Microsoft Office 365, Adobe Creative Cloud)
    • เครื่องมือจัดการงานและการทำงานร่วมกัน (เช่น Notion, Trello, Asana)
  1. สุขภาพและฟิตเนส
    • ค่าธรรมเนียมสมาชิกฟิตเนส
    • คอร์สออกกำลังกายหรือการทำสมาธิออนไลน์ (เช่น Peloton, Headspace, Calm)
    • แอปพลิเคชันติดตามสุขภาพ (เช่น MyFitnessPal Premium)
  1. การศึกษาและการเรียนรู้
    • แพลตฟอร์มเรียนรู้ภาษา (เช่น Duolingo Plus, Babbel)
    • แพลตฟอร์มคอร์สออนไลน์ (เช่น Coursera, Udemy)
    • การสมัครสมาชิกทักษะวิชาชีพ (เช่น Skillshare, MasterClass)
  1. บริการชีวิต
    • สมาชิกส่งอาหาร (เช่น Uber Eats Pass, Foodpanda Pro)
    • การสมัครสมาชิกข่าวสารและหนังสือพิมพ์ (เช่น Bloomberg, The New York Times)
    • กล่องสมัครสมาชิกผลิตภัณฑ์ (เช่น กล่องเครื่องสำอาง, การสมัครสมาชิกกาแฟ)
  1. เกมและบริการเสมือนจริง
    • สมาชิกเกม (เช่น PlayStation Plus, Xbox Game Pass)
    • การสมัครสมาชิกอัปเกรดในเกมมือถือ
    • ค่าบริการรายเดือนสำหรับไอเท็มเสมือนหรืออุปกรณ์เสริม

จะตัดสินใจได้อย่างไรว่าควรสมัครสมาชิกบริการใหม่หรือไม่?

ในยุคที่บริการ SAAS มีมากมาย เรามักพบกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ดูน่าสนใจ แต่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบว่าเราต้องการบริการเหล่านี้จริงหรือไม่ หลักการต่อไปนี้ช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด:

  1. ใช้บ่อยแค่ไหน?: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริการจะถูกใช้งานบ่อย หากเป็นเพียงความต้องการชั่วคราว ให้พิจารณาทางเลือกที่ฟรีหรือมีต้นทุนต่ำกว่า
  2. จำเป็นจริงหรือ?: เลือกบริการที่มีฟังก์ชันตรงตามความต้องการจริง หลีกเลี่ยงการถูกดึงดูดด้วยฟังก์ชันเสริมที่ไม่จำเป็น
  3. มีงบประมาณหรือไม่?: ควบคุมยอดรวมของการสมัครสมาชิกให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการสะสมค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ จนกลายเป็นภาระ
  4. มีทางเลือกฟรีหรือไม่?: มีทางเลือกฟรีหรือราคาต่ำกว่าหรือไม่? ตรวจสอบตัวเลือกอื่นในตลาดเพื่อเลือกสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด

จัดการการสมัครสมาชิกอย่างเป็นระบบ เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียค่าใช้จ่ายระยะยาว

การจัดการการสมัครสมาชิกอย่างเป็นระบบสามารถลดความกดดันทางการเงินได้อย่างมาก ต่อไปนี้คือคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมบางประการที่ช่วยให้คุณควบคุมค่าใช้จ่ายจากการสมัครสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

  1. ข้อดีของการสมัครสมาชิกประจำปี: หากแน่ใจว่าจะใช้บริการใดบริการหนึ่งในระยะยาว ให้เลือกชำระเงินรายปีครั้งเดียว วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะได้รับส่วนลด แต่ยังลดการรบกวนจากการหักเงินซ้ำๆ ทุกเดือน ทำให้การเงินของคุณมีการวางแผนมากขึ้น นอกจากนี้ การสมัครสมาชิกประจำปีช่วยให้คุณประเมินมูลค่าของบริการในระยะยาว หลีกเลี่ยงการสมัครสมาชิกด้วยความสนใจระยะสั้น
  2. สร้างรายการสมัครสมาชิก: รวมบริการสมัครสมาชิกทั้งหมดเป็นรายการ ระบุค่าใช้จ่าย ความถี่ในการหักเงิน ความถี่ในการใช้งาน และประโยชน์ใช้สอย รายการนี้ทำให้คุณเห็นภาพรวมได้ชัดเจน เมื่อทำการตรวจสอบเป็นประจำจะช่วยให้คุณค้นหาสิ่งที่มีประสิทธิภาพต่ำได้เร็วขึ้น และยกเลิกค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
  3. ตั้งค่าการเตือน: สำหรับการสมัครสมาชิกประจำปีหรือรายไตรมาส ให้ตั้งค่าการเตือนล่วงหน้า 30 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะตรวจสอบความจำเป็นในการต่ออายุการสมัครสมาชิกก่อนหมดอายุ วิธีนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการลืมยกเลิก ลดการสูญเสียเงินที่ไม่จำเป็น
  4. ติดตามการใช้งาน: การสมัครสมาชิกบางรายการอาจถูกละเลยหรือไม่ได้ใช้งาน ตรวจสอบการใช้งานจริงอย่างง่ายๆ ทุกเดือนหรือทุกไตรมาส เพื่อให้แน่ใจว่าเงินที่ใช้ไปทุกบาทมีค่า การตรวจสอบเป็นประจำจะช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายได้

ควบคุมค่าใช้จ่ายจากการสมัครสมาชิก เพื่อคืนอิสรภาพทางการเงิน

ความสะดวกสบายที่บริการสมัครสมาชิกนำมาให้ไม่อาจปฏิเสธได้ แต่การจัดการค่าใช้จ่ายจากการสมัครสมาชิกอย่างมีเหตุผลจะช่วยให้คุณไม่ถูกดึงดูดด้วยการหักเงินเล็กๆ น้อยๆ ควบคุมรายการสมัครสมาชิก ให้ทุกการใช้จ่ายมีคุณค่า เป็นก้าวสำคัญสู่การมีอิสรภาพทางการเงิน ในยุคที่มีตัวเลือกมากมาย มีเพียงกลยุทธ์การเงินที่ชัดเจนเท่านั้นที่จะช่วยให้เรารับมือกับทุกการใช้จ่ายได้อย่างมั่นใจ และมุ่งเน้นไปที่การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด

ทุกการสมัครสมาชิกของคุณ ควรนำมาซึ่งคุณค่าชีวิตที่สูงขึ้น

ในยุคที่มีตัวเลือกไม่จำกัด การจัดการรายการสมัครสมาชิกคือการจัดการลำดับความสำคัญในชีวิตของคุณ ทุกค่าใช้จ่ายในการสมัครสมาชิกแสดงถึงคำมั่นสัญญาของคุณบางอย่าง—เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตหรือเป็นการประนีประนอมกับความต้องการระยะสั้น?

เมื่อเราตัดการสมัครสมาชิกที่ "ใช้แต่ไม่จำเป็น" เช่น "สมาชิกเพลงที่ซื้อมาฟังน้อยมาก" หรือ "แพลตฟอร์มวิดีโอที่หักเงินทุกเดือนแต่แทบไม่ได้ดู" เงินและเวลาของเราจะเหลือไว้สำหรับสิ่งที่คุ้มค่าจริงๆ อาจเป็นการสมัครคอร์สออนไลน์ที่อยากเรียนมานาน ซื้อเครื่องมือที่ช่วยพัฒนาทักษะวิชาชีพ หรือเก็บเงินสำหรับการเดินทางครั้งต่อไป หรือแม้กระทั่งการมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น

การควบคุมค่าใช้จ่ายจากการสมัครสมาชิก ไม่ใช่แค่ "ประหยัดค่าใช้จ่าย" แต่เป็นการลดสิ่งที่ทำให้เราเบี่ยงเบนจากเป้าหมายชีวิต การตรวจสอบคุณค่าของการสมัครสมาชิกใหม่ มุ่งเน้นไปที่ตัวเลือกที่สามารถเพิ่มพูนชีวิตได้จริงๆ ให้เวลาและเงินของคุณถูกใช้ไปในที่ที่ทำให้คุณเติบโตได้จริง

ภาพถ่ายโดย Marques Kaspbrak บน Unsplash

เพิ่มเติมจากบล็อกของเรา

go to top